วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิจัยชิ้นใหม่ชี้ "คนนอนดึกตื่นสาย" ฉลาดกว่า "คนนอนไวตื่นเช้า"

วิจัยชิ้นใหม่ชี้ "คนนอนดึกตื่นสาย" ฉลาดกว่า "คนนอนไวตื่นเช้า"

โอ้โหเด็ด
 โหวตเรียบร้อย
3080505 26 ต.ค. 56 18:16 น. 49.49.123.117 7,741 78 12 68.52
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดร.ฟิลิปเป้ เปโนซ์ จากมหาวิทยาลัยแลจในเบลเยียม ได้นำคนสองกลุ่มมาเปรียบเทียบกัน โดยการมอบหมายภารกิจที่ใช้วัดปฏิกิริยาการตอบสนองและระยะเวลาที่คนๆ นั้นยังคงตื่นตัวกับการทำงาน โดยระหว่างการทดลอง อาสาสมัครจะเข้านอนและตื่นตามเวลาปกติ โดยพวกที่นอนหัวค่ำมีแนวโน้มตื่นก่อนพวกนกฮูกถึง 4 ชั่วโมง สำหรับผลการวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารไซนส์ โดยได้ระบุว่า อาสาสมัครทั้งสองกลุ่มทำภารกิจได้ดีพอๆ กันหลังจากตื่นนอนไม่นาน แต่หากผ่านไปสิบชั่วโมง พวกนอนดึกตื่นสายจะฉายแววโดดเด่นกว่า ทั้งทำภารกิจเร็วกว่าและมีปฏิกิริยาตื่นตัวดีกว่าด้วย

จากรายงานได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการวิจัยนี้ว่า แม้ตื่นนอนมานานพอๆ กัน แต่ดูเหมือนพวกนอนหัวค่ำจะรู้สึกง่วงงุนมากกว่า ซึ่งจากการสแกนสมองพบว่าบางส่วนในสมองที่เชื่อมโยงกับความสนใจทำงานที่ช้าลง ในการศึกษาก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมการนอนดึกเกิดจากดีเอ็นเอ โดยนาฬิกาชีวภาพในร่างกายคนเราที่ควบคุมโดยพันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดว่าคนๆ นั้นจะเป็นนกน้อยที่ตื่นหากินแต่ย่ำรุ่งหรือเป็นนกฮูกตาโตยันดึก

นอกจากผลการวิจัยชิ้นนี้ ยังมีงานศึกษาอีกหลายชิ้นที่หักล้างความคิดที่ว่า เข้านอนแต่หัวค่ำและตื่นแต่เช้าดีต่อสุขภาพร่างกาย สมองและฐานะ เนื่องจากพบว่าคนนอนดึกตื่นสายฉลาดกว่า สมองฉับไวคิดอะไรเร็วกว่า แถมยังมีความจำดีกว่า จึงหาเงินได้มากกว่า ในรายงานชิ้นนี้ยังพูดถึง เหล่านกฮูกคนดังที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น ชาร์ลส์ ดาร์วิน , อะดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และวินสตัน เชอร์ชิล ที่เข้านอนตอนตีสี่และตื่นสายโด่งเป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม ทางวิชาการ เชื่อกันว่าปัจจัยที่แบ่งแยกกลุ่มนกน้อยกับนกฮูกคือวิวัฒนาการที่เริ่มต้นจากยุคหิน โดยพวกตื่นเช้าจะเป็นพวกที่ออกไปหาอาหารการกิน ส่วนพวกนอนดึกมีหน้าที่ระวังภัยยามราตรี และทั้งสองกลุ่มต่างหลับสนิทอย่างอุ่นใจเพราะรู้ว่าสิ่งสำคัญจำเป็นของตนเองได้รับการดูแลเอาใจใส่แล้ว แต่เมื่อถึงยุคสมัยที่มนุษย์เราเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชผักเป็นอาหาร พวกตื่นเช้าจึงเป็นที่ต้องการในสังคมเพราะเริ่มต้นทำงานก่อนใคร ขณะที่พวกตื่นสายถูกประณามว่าเกียจคร้านสันหลังยาว

ขอบคุณข่าวจาก Yenta4.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น